การล้างแอร์ แนะนำให้ทำปีละ 2 ครั้งหรือทุกๆ 6 เดือน ข้อดีของการล้างแอร์ คือ ลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันกลิ่นเหม็นอับ ไม่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ ช่วยให้แอร์ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ลดการอุดตันจากไรฝุ่น สิ่งสกปรกทำให้แอร์ไม่เย็นและช่วยประหยัดค่าไฟ ไม่ให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักจากไรฝุ่นที่สะสมที่ตัวระบายความร้อน

เวลาที่เหมาะสมในการล้างแอร์คือทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี โดยประมาณ ซึ่งถ้าหากแอร์ที่คุณใช้งานมีอายุมากแล้ว แนะนำให้มีการล้างแอร์บ่อยขึ้น ลดระยะเวลาลงมา เปลี่ยนมาล้างทุกๆ 3 – 4 เดือนแทน  และหมั่นดูแลทำความสะอาด ไม่ให้ไส้กรองหรือฟิลเตอร์สกปรก ล้างฉีดภายนอกคอยล์ร้อน คอยล์เย็น เดือนละ 1 – 2 ครั้ง 

เบื้องต้นควรให้ช่างแอร์เข้ามาตรวจสอบก่อนว่า สาเหตุของปัญหานั้นมาจากอะไร หากมีชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ที่เสียหายหรือชำรุด สามารถทำการแก้ไขซ่อมแซมให้เรียบร้อย แต่ทั้งนี้หากแอร์ที่บ้านของคุณมีอายุการใช้งานมายาวนานแล้วประมาณ 10-15 ปี แนะนำว่าควรเปลี่ยนแอร์ใหม่จะเป็นการดีกว่า เพราะแอร์เก่าจะกินไฟมาก และแอร์ไม่เย็นถึงแม้ว่าจะมีการซ่อมบำรุงล้างแอร์ไปแล้วก็ตาม การเปลี่ยนแอร์เครื่องใหม่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการซ่อมบ่อยๆ 

การย้ายแอร์ควรทำโดยช่างมืออาชีพที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์เฉพาะด้าน เพื่อไม่ให้กระทบต่อโครงสร้าง การทำงานมีมาตรฐาน หลังเสร็จงานทำความสะอาดพื้นที่เรียบร้อย มีการตรวจสอบระบบการทำงานของแอร์หลังย้าย มีการรับประกันหลังจากย้าย พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลรักษา การใช้งานอย่างถูกวิธี

อบโอโซน คือ การซ่าเชื้อโรค ลดกลิ่นอับ โดยหลังจากล้างแอร์จะมีการฉีดโฟมฆ่าเชื้อกำจัดสิ่งสกปรก เชื้อโรคแบคทีเรีย ฆ่าเชื้อได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทิ้งสารตกค้าง มีกลิ่นหอมสดชื่น เพื่อสุขภาพที่ดี ทำให้บรรยากาศภายในห้องดีขึ้น

แอร์มีน้ำแข็งเกาะมักเกิดที่คอยล์เย็น เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น น้ำยาแอร์รั่วซึม ให้สังเกตที่ปลายท่ออาจตันเพราะน้ำยาแอร์จับตัวเป็นก้อน ลองใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดหรือระบายสิ่งอุตันออกทำให้แอร์กลับมาเย็นปกติ บางครั้งแอร์มีน้ำแข็งเกาะ อาจเป็นเพราะน้ำยาแอร์มีน้อย แก้ด้วยการให้ช่างมาเติมน้ำยาแอร์ ในกรณีที่ฝุ่นเกาะหนา แอร์อาจมีน้ำแข็งเกาะได้ ต้องทำความสะอาดฝุ่นให้น้อยลง เป็นต้น แต่ถ้าหากแอร์ตันจะต้องเรียกช่างเท่านั้นไม่ควรฝืนใช้งานต่อ

แอร์มีหลายยี่ห้อ หลายรุ่น เลือกแอร์ยี่ห้อดี แบรนด์ดัง ช่วยเพิ่มความเชื่อถือได้ มีการรับประกันคุณภาพ และต้องเลือก BTU แอร์ให้เหมาะสมตามขนาดของห้องหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

1. ถอดแผ่นกรองอากาศหรือฟิลเตอร์มาทำความสะอาด โดยใช้เครื่องดูดฝุ่น ดูดตามท่อ ตัวกรอง คอยล์เย็น คอยล์ร้อน พัดลมภายนอก
2. ทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศให้เรียบร้อย ใช้ผ้าเช็ด นำไปล้างจุ่มลงในน้ำสบู่อ่อน 10-15 นาที
3. ล้างทำความสะอาดคอยล์เย็นน้ำยาล้างคอยล์เย็น
4. ล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำแอร์ ใช้เครื่องดูดฝุ่นได้
5. ทำความสะอาดเช็ดปัดฝุ่นออกจากตัวแอร์

• ล้างแอร์ติดผนัง 650.-
• ล้างแอร์พร้อมฉีดน้ายาฆ่าเชื้อ 990.-
• ล้างแอร์แขวนหรือตั้งพื้น 1250-1450.-
• ล้างแอร์สี่ทิศทาง 1300-1500.-
• ตัดล้างแอร์ติดผนัง 1900-2400.-
• ล้างแอร์ + อบโอโซน 890-1090.-
• ล้างแอร์ + ดูดไรฝุ่น พร้อมสปาฆ่าเชื้อ 1790-2690.-

การติดตั้งแอร์ โดยปกติใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของพื้นที่หน้างาน

ล้างแอร์ ใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมงต่อเครื่อง

แอร์อินเวอร์เตอร์ คือ แอร์ที่ช่วยประหยัดพลังงานมากขึ้นเมื่อเทียบกับแอร์ธรรมดา ทำงานเสียงเงียบ รักษาอุณหภูมิได้สม่ำเสมอ แอร์เย็นเร็วกระจายทั่วถึงภายในห้อง