วิธีแก้ปัญหาแอร์ไม่เย็น มีแต่ลม สาเหตุเบื้องต้นแก้ง่ายๆด้วยตนเอง

เคยไหมที่เปิดแอร์แล้วเจอแต่ลมเป่าออกมา แต่กลับไม่มีความเย็น ทำให้ห้องร้อนอบอ้าว ปัญหา แอร์ไม่เย็น เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งแผ่นกรองสกปรก น้ำยาแอร์หมด หรือการตั้งค่าอุณหภูมิไม่เหมาะสม โชคดีที่บางปัญหานั้นสามารถแก้ไขได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง มาดูกันว่าควรตรวจสอบและแก้ไขกันอย่างไรได้บ้าง

อาการแอร์ไม่เย็น เป็นยังไง

อาการแอร์ไม่เย็น มักปรากฏให้เห็นเมื่อเปิดเครื่องแล้วรู้สึกว่าไม่มีความเย็นเหมือนปกติ หรือมีแต่ลมออกมา ไม่ช่วยให้ห้องเย็นขึ้น อาจเกิดจากการที่แอร์เป่าลมออกมา แต่ไม่สามารถทำความเย็นได้อย่างที่เต็มที่ และในบางครั้งจะเห็นว่าแอร์ทำงานเสียงดังมากกว่าปกติ หรือมีน้ำหยดออกมาจากเครื่อง ขณะเดียวกันอุณหภูมิในห้องก็ยังคงเหมือนเดิม แม้จะเปิดแอร์มานานแล้วก็ตาม นี่คืออาการเบื้องต้นที่บ่งชี้ว่าแอร์อาจมีปัญหา ต้องได้รับการตรวจสอบและซ่อมแซมแก้ไข

สาเหตุที่ทำให้ แอร์ไม่เย็น มีแต่ลม?

1. แผ่นกรองอากาศสกปรก

เป็นหนึ่งในสาเหตุแรกๆ ที่ทำให้แอร์ไม่เย็น เมื่อฟิลเตอร์มีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกสะสมมากเกินไป จะทำให้การไหลเวียงของอากาศไม่ดี เส้นทางลมถูกขัดขวาง ส่งผลให้แอร์ไม่สามารถดูดอากาศเข้าไปทำความเย็นได้

2. น้ำยาแอร์หมดหรือรั่ว

ปัญหาจากการที่ไม่ได้เติมน้ำยาแอร์ ทำให้มีระดับไม่เพียงพอ จึงทำให้แอร์ของเรานั้นไม่สามารถทำความเย็นได้ เพราะน้ำยาแอร์เป็นสารที่ช่วยทำความเย็น หรือถ้าหากมีการเติมน้ำยาแอร์ไปแล้ว แต่แอร์ของคุณก็ยังไม่เย็นเหมือนเดิม ควรจะตรวจเช็กดูว่ามีจุดไหนรั่วซึม ตามท่อส่งน้ำยามีการอุดตันหรือไม่ 

3. ปัญหาคอมเพรสเซอร์หรือคอยล์เย็น

บางครั้งปัญหาที่ทำให้แอร์ไม่เย็นก็อาจจะมาจากตัวคอมเพรสเซอร์ ที่ทำงานหรือมีการทำงานที่ผิดปกติไปจากเดิม เช่น มีการสะสมของฝุ่นละออง สิ่งสกปรก หรือมีอะไหล่ชิ้นส่วนภายในเสียหาย ทำให้ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ ส่งผลให้แอร์ไม่สามารถทำความเย็นได้ และมีแต่ลมออกมานั้นเอง ซึ่งปัญหานี้เราแนะนำให้คุณเรียกช่างแอร์ที่มีความชำนาญเข้ามาแก้ไข เพราะคอมเพรสเซอร์ก็เปรียบเสมือนหัวใจของแอร์นั่นเอง

4. การปรับโหมดแอร์ผิด

ปัญหาแอร์ไม่เย็น สาเหตุมาจากการตั้งค่ารีโมทแอร์ที่ผิดได้เช่นกัน ในบางครั้งเราอาจจะปรับโหมดโดยไม่ตั้งใจ หรือไม่รู้ว่าแต่ละโหมดนั้นทำอะไรได้บ้าง เช่น การเผลอไปปรับเป็นโหมดพัดลม (Fan) แทนที่จะเป็นโหมดทำความเย็น (Cool) ก็จะทำให้แอร์ของคุณนั้นมีแต่ลมออกมา จนทำให้เข้าใจผิดได้ว่าแอร์ไม่เย็น

5.แอร์ไม่เย็นเพราะไม่ได้ล้างแอร์

อย่างที่รู้กันว่าหากเราไม่ได้ล้างแอร์เป็นประจำ ก็เหมือนไม่ได้ทำความสะอาดแอร์เลย ซึ่งเหตุนี้จะทำให้มีสิ่งสกปรก ฝุ่นละอองเข้าสะสมอยู่ภายในตัวเครื่องหรือคอมเพรสเซอร์ เป็นแหล่งเชื้อโรคที่อาจทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ เพราะแอร์ไม่สามารถระบายความร้อนออกมาได้ ดังนั้นการไม่ล้างแอร์จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้แอร์ไม่เย็น ไม่สามารถทำความเย็นได้ตามที่ต้องการ ซึ่งระยะเวลาที่เหมาะสมในการล้างแอร์ คือ ทุกๆ 4 – 6 เดือน 

6.แอร์ไม่เย็นเพราะค่า BTU แอร์ ไม่เพียงพอกับห้อง

การที่เราเลือกขนาด BTU แอร์ไม่สัมพันธ์กับห้อง ก็ส่งผลให้แอร์ไม่เย็นได้ เพราะใครหลายคนยังไม่ค่อยรู้เรื่องการใช้แอร์กันมากนัก อีกทั้งยังพบได้อยู่บ่อยๆ เช่น การเลือกใช้แอร์ขนาดเล็กเพราะคิดว่าเพียงพอ และประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าการเลือกแอร์ขนาดใหญ่ หรือการติดตั้งแอร์ขนาดเล็กกับห้องขนาดใหญ่ จึงเป็นเหตุให้แอร์นั้นทำงานหนักงานกว่าปกติเพื่อให้ห้องนั้นเย็นเพียงพอ เป็นต้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นผลทำให้แอร์ไม่เย็นได้ ดังนั้น เราจึงควรเลือก BTU แอร์ให้เหมาะกับขนาดของห้องด้วย

7.มีคนอยู่ในห้องเยอะ เลยทำให้แอร์ไม่เย็น

จำนวนของคนที่อยู่อาศัยภายในห้อง ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้แอร์ไม่เย็น เพราะยิ่งมีคนอยู่ในห้องมาก การถ่ายเทความร้อนจากร่างกายของมนุษย์ก็จะเพิ่มมากขึ้น เลยทำให้แอร์เย็นช้า กว่าที่จะสามารถทำความเย็นได้ตามที่กำหนดก็ต้องใช้เวลานานขึ้นกว่าปกติ ดังนั้นหากต้องการให้แอร์ของคุณเย็นฉ่ำเพียงพอ ไม่ควรมีคนอยู่ในห้องมากเกินไป

8.ประตูหรือหน้าต่างปิดไม่สนิท

ก่อนที่เราจะเปิดแอร์หรือเครื่องปรับอากาศ หนึ่งสิ่งที่ไม่ควรลืมเลยคือ การตรวจเช็กประตูและหน้าต่างว่าปิดสนิทดีหรือไม่ เพราะถ้าหากมีช่องว่าง ก็จะทำให้ไอเย็นไหลออกด้านนอก ซึ่งหากมีช่องให้อากาศรอดได้ก็ควรรีบแก้ไขปิดช่องให้เรียบร้อย

วิธีแก้ปัญหา แอร์ไม่เย็น เซ็กเบื้องต้นด้วยตัวเอง

1.ตรวจเช็กทำความสะอาดฟิลเตอร์

แผ่นกรองอากาศสกปรก เป็นสาเหตุที่ทำให้แอร์ไม่เย็น ซึ่งการทำความสะอาดนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงถอดออกมาล้างทำความสะอาดก็เรียบร้อยแล้ว โดยมีวิธีการล้างฟิลเตอร์ไส้กรอง ดังนี้

• เริ่มที่การถอดหน้ากากของแอร์ จากนั้นดันแถบแผ่นกรองที่อยู่ตรงกลางขึ้น แล้วดึงฟิลเตอร์ลงออกมา
• จากนั้นนำฟิลเตอร์หรือแผ่นกรองอากาศไปล้างน้ำ ขัดทำความสะอาด (ไม่ควรใช้แรงขัดมากเพราะแผ่นกรองอาจจะเสียหายได้) หรือถ้าหากมีฝุ่นละอองเกาะอยู่ไม่มาก การใช้เครื่องดูดฝุ่นก็สามารถทำได้ จากนั้นนำไปผึ่งให้แห้งไม่ต้องโดนแดดแรงมาก
• สุดท้ายคือการนำฟิลเตอร์หรือแผ่นกรองอากาศ ใส่กลับเข้าไปที่ตัวเครื่องแอร์ ปิดหน้ากากของแอร์ให้สนิท ซึ่งเราแนะนำให้คอยตรวจเช็กทำความสะอาดฟิลเตอร์ไส้กรองในทุกๆ 2 สัปดาห์ 

2.เช็กอุณหภูมิและรีโมทแอร์

ถ้าคุณลองเปิดแอร์แล้วไม่เย็น ก่อนอื่นเลยให้ลองเช็กรีโมทแอร์ดูก่อนว่า อยู่ในโหมดไหน มีการปรับโหมดแอร์ที่เปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่ หรือเผลอลืมเปลี่ยนกลับก็มีเช่นกัน ซึ่งโหมดแอร์นั้นจะหลักๆ อยู่ 4 แบบ ได้แก่

• Auto Mode – เป็นโหมดที่แอร์จะทำงานปรับความเย็นตามอัตโนมัติผ่านเซนเซอร์ที่กำหนดไว้ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่เดินเข้าออกหรือเดินออกห้องบ่อยๆ
• Cool Mode – โหมดทำความเย็น ในโหมดนี้เราสามารถปรับความเย็นได้ตามต้องการ เหมาะสำหรับใช้ในสภาพอากาศช่วงหน้าร้อน
• Fan Mode – โหมดพัดลม เป็นการหมุนเวียนอากาศจากภายนอกให้เข้ามาภายในห้อง นิยมใช้ช่วงที่ห้องของคุณเหม็นอับ อากาศไม่ถ่ายเท โดยในโหมดนี้จะไม่มีการทำความเย็น เป็นอุณหภูมิห้องแบบปกติ
• Dry Mode – เป็นโหมดที่ใช้ในการควบคุมความชื้นภายในห้อง เหมาะสำหรับช่วงหน้าฝน ฝนตกบ่อย แล้วไม่อยากให้มีความชื้นสูงเกิน

3.ตรวจสอบเส้นทางไหลเวียนของอากาศ

ก่อนอื่นๆเราต้องตรวจสอบดูว่ามีสิ่งของชิ้นไหน ขัดขวางทางลมหรือไม่ เพราะปัจจัยนี้ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้แอร์ไม่เย็น ไม่มีอากาศหมุนเวียนภายในห้อง เช่น เฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน หรือฉากกั้นห้อง ทำให้ลมความเย็นของแอร์ไม่สามารถกระจายได้ทั่วห้อง ดังนั้น ก่อนการตกแต่งห้องเพิ่มเติม ก็ควรจะดูทิศทางของแอร์ที่ติดตั้งด้วย เพื่อให้ลมของแอร์ไหลกระจายหมุนเวียนได้ทั่วห้อง

4.ตรวจเช็กคอมเพรสเซอร์ของแอร์

หากคุณเปิดใช้งานแอร์ทุกวัน ควรเช็กคอมเพรสเซอร์หรือคอยล์ร้อนด้านนอกด้วย เพราะในบางครั้งที่แอร์ไม่เย็น อาจจะมาจากที่ตัวคอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน ให้ลองปิดแล้วเปิดใหม่โดยการสับเบรกเกอร์ แอร์ก็จะกลับมาทำงานได้ตามปกติ แต่ถ้าหากลองทำแล้วก็ยังมีอาการเหมือนเดิม แนะนำว่าควรเรียกช่างแอร์เข้าแก้ไข เพราะคอมเพรสเซอร์เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ส่งผลถึงคอยล์เย็น

5.เช็กจุดรั่วซึมหรือท่อน้ำยา

ภายหลังจากการเช็กจุดอื่นๆที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว แต่ปัญหาแอร์ไม่เย็นก็ยังแก้ไม่หาย ควรมาดูที่ระดับน้ำยาแอร์ปกติหรือไม่ ถ้าหากลดลงก็เติมน้ำยาเพิ่มหรือถ้ามากไปก็ลดออก หากทำแล้วยังไม่หายอีก ก็ต้องทำการเช็กท่อน้ำยาว่าจุดใดที่รั่วหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้จะต้องมีอุปกรณ์เฉพาะที่ใช้ในการตรวจสอบ ควรให้ช่างที่มีความเชี่ยวชาญเข้าจัดการแก้ไขให้

1 ปีควรล้างแอร์กี่ครั้ง รอบล้างแอร์ที่เหมาะสม

การล้างแอร์ถือเป็นการดูแลรักษาแอร์อย่างหนึ่ง เพื่อให้เครื่องปรับอากาศสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทั่วไปควรล้างแอร์ปีละ 2 ครั้ง คือการล้างภายใน 6 เดือน และอีกครั้งในช่วยปลายปีหรือเมื่อมีการใช้งานบ่อยมากขึ้น เช่น ในช่วงฤดูร้อนที่แอร์ต้องทำงานหนัก มีการเปิดแอร์เพื่อทำความเย็นอยู่เป็นประจำ ก็อาจจะลดช่วงเวลาลงมา ล้างแอร์เร็วขึ้นในทุก 3 – 4 เดือน หรือเมื่อคุณเริ่มรู้สึกว่าแอร์ไม่เย็นมีแต่ลมร้อนเป่าออกมาก็ได้เช่นกัน

แอร์ไม่เย็นควรล้างเองหรือหาช่างแอร์

การล้างแอร์สามารถทำได้ทั้งแบบทำเองและจ้างช่าง ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความพร้อมของคุณ การล้างแอร์ด้วยตัวเองสามารถทำได้ โดยคุณสามารถถอดแผ่นกรองอากาศออกมาล้างหรือทำความสะอาด ในบริเวณที่เข้าถึงได้ง่าย การมองหาช่างล้างแอร์ จำเป็นก็ต่อเมื่อคุณไม่สะดวกในการทำความสะอาดส่วนลึกๆของแอร์ ไม่มั่นใจในวิธีการล้างที่ถูกต้อง ถอดประกอบเองไม่เป็น ช่างแอร์จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า เพราะมีความเป็นมืออาชีพ มีความรู้และมีอุปกรณ์สำหรับการทำความสะอาดได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการล้างคอยล์เย็น ล้างท่อระบาย หรือการเติมน้ำยาแอร์ใหม่ ซึ่งจะช่วยให้แอร์กลับทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเหมือนเดิม อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของแอร์ได้อีกด้วย

หมดกังวลเรื่องแอร์ไม่เย็น แอร์ออกแต่ลม Airyen ช่วยได้ เย็นทันใจ

หากคุณประสบปัญหาเรื่องแอร์ไม่เย็น ลองแก้ไขเองแล้วแต่ก็ยังมีอาการเหมือนเดิม หรือคุณเป็นมือใหม่ที่พึ่งซื้อแอร์มาได้ไม่นาน ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหน แนะนำให้เรียกใช้บริการช่างแอร์มืออาชีพนั้นดีกว่า Airyenservice ให้บริการล้างแอร์แบบครบวงจร จะล้างแบบธรรมดา ตัดล้าง หรือการล้างแอร์ใหญ่ก็สามารถทำได้ เราเป็นผู้เชี่ยวชาญที่บริการมาแล้วกว่า 30 ปี ลูกค้ามั่นใจได้ถึงคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ แอร์ทุกเครื่องที่รับบริการจากทางเราจะได้รับการตรวจสอบแก้ไขเป็นอย่างดี พร้อมบริการตรวจเช็กชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆของแอร์ หากมีชิ้นไหนชำรุดหรือเสื่อมสภาพ เราก็พร้อมจะแก้ไข จะซ่อมแอร์หรือล้างแอร์ครอบคลุมทั้งหมด ภายหลังการล้างหรือซ่อมแอร์เสร็จสิ้น ถ้าหากแอร์มีปัญหาหรืออาการ เราพร้อมดูแลหลังการขายให้ รับประกันผลงานต้องเป็นที่พึงพอใจแก่ลูกค้าทุกท่านที่ใช้บริการจากทางเรา

การที่แอร์ไม่เย็นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น แผ่นกรองอากาศหรือฟิลเตอร์สกปรก น้ำยาแอร์หมดหรือคอมเพรสเซอร์มีปัญหา ซึ่งสามารถตรวจเช็คและแก้ไขเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ หากมีปัญหาที่ซับซ้อนหรือไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง Airyen พร้อมให้บริการถึงที่ เราดูแลให้ครบถ้วนในเรื่องแอร์ พร้อมให้คำปรึกษาตลอดเวลา Airyen มีประสบการณ์ทำงานมาไม่ต่ำกว่า 30 ปี ไม่เพียงแต่การล้างแอร์ แต่ยังรวมถึงการซ่อมแอร์ ถอดประกอบแอร์ ย้ายแอร์ และติดตั้งแอร์ใหม่อีกด้วย โดยมีทีมงานมืออาชีพที่ได้รับการอบรมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้คุณมั่นใจถึงคุณภาพของบริการที่จะได้รับ สบายใจหายห่วงได้ว่าแอร์ของคุณจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สะดวกและรวดเร็ว ไม่เสียเวลาอย่างแน่นอน สามารถติดต่อสอบถามเพื่อพูดคุยจองคิวนัดหมายได้ที่ Airyenservice.com