การล้างแอร์ ช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยยืดอายุการใช้งานออกไป หลายท่านอาจสงสัยหรือยังไม่เข้าว่า ล้างแอร์มีกี่แบบ และแต่ละแบบนั้นต่างกันอย่างไร การเลือกวิธีการล้างแอร์ที่ถูกต้องและเหมาะสมสามารถช่วยให้แอร์ทำงานได้ดีขึ้น ลดการใช้พลังงาน แอร์ไม่ทำงานหนักจนเกินไป และประสิทธิภาพการทำความเย็นกลับมาเหมือนใหม่ บทความนี้เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับการล้างแอร์แต่ละประเภท รวมถึงคำแนะนำในการเลือกวิธีล้างแอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
การล้างแอร์แบบทั่วไปกับล้างใหญ่ ต่างกันอย่างไร
การล้างแอร์แบบธรรมดา (ทั่วไป) คือ การทำความสะอาดแอร์ในรูปแบบพื้นฐาน ไม่ต้องถอดชิ้นส่วนมาก โดยจะเน้นการทำความสะอาดภายนอก ซึ่งการล้างแบบนี้เราสามารถล้างแอร์เองได้ จะเน้นไปที่การล้างกรองอากาศ แผงเครื่องหรือพัดลมที่คอยล์เย็นและภายนอกของคอยล์ร้อนของแอร์เท่านั้น
การล้างแอร์แบบล้างใหญ่ คือ การถอดแอร์ออกมาทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกของเครื่อง ล้างแบบละเอียดทุกซอกทุกมุม เช่น การล้างคอยล์เย็นและคอยล์ร้อนด้วยน้ำแรงดันสูงหรือใช้น้ำยาล้าง การทำความสะอาดท่อระบายน้ำและการตรวจสอบระบบทำความเย็นต่างๆ การเช็กระบบไฟและจุดต่างๆ เพื่อหาความผิดปกติของแอร์ ซึ่งวิธีนี้จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า แต่จะได้แอร์ที่สะอาดเหมือนเครื่องที่พึ่งซื้อใหม่ อีกทั้งยังสามารถแก้ไขปัญหาอาการต่างๆของแอร์ได้อย่างดี เช่น แอร์มีน้ำหยด แอร์มีกลิ่นอับหรือแอร์ไม่เย็นได้
ล้างแอร์มีกี่แบบ ล้างวิธีไหนได้บ้าง?
1.การล้างแอร์แบบทั่วไป
เป็นวิธีล้างแอร์แบบง่ายๆ ที่เราสามารถทำได้เอง โดยไม่ต้องเรียกช่างแอร์ก็ได้ จะเป็นการล้างย่อยในบางชิ้นส่วนที่อาจจะมีสิ่งสกปรกเข้าไปสะสมเพียงเท่านั้น โดยการถอดฟิลเตอร์หรือแผ่นกรองอากาศออกมาล้าง ทำความสะอาดฝุ่นละอองที่เข้าไปเกาะอยู่ตามแผงไส้กรอง เพื่อให้แอร์นั้นสามารถถ่ายเทอากาศได้ดีขึ้น และการล้างทำความสะอาดภายนอกของตัวเครื่องปรับอากาศ ซึ่งเราแนะนำว่าให้หมั่นทำความสะอาดในทุกๆ 1-2 อาทิตย์ วิธีนี้สามารถป้องกันอาการผิดปกติของแอร์ที่มักจะเกิดขึ้นได้ดีในระดับหนึ่ง เช่น อยู่ๆแอร์ก็ไม่เย็น เย็นบ้างไม่เย็นบ้าง
2.การล้างด้วยน้ำแรงดันสูง
เป็นวิธีการล้างแอร์ด้วยการใช้น้ำแรงดันฉีดทำความสะอาดภายในตัวคอยล์เย็น ล้างฟิลเตอร์ ชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ฝุ่นละอองที่เกาะตามช่องลม จากนั้นจะทำการเป่าให้แห้ง เพื่อนำกลับมาประกอบเข้าที่เดิม ซึ่งวิธีการล้างแบบนี้จะมีความยุ่งยากเข้ามา ต้องเปิดฝาครอบเครื่อง ต้องใช้อุปกรณ์เครื่องมือช่างสำหรับถอดประกอบชิ้นส่วน
3.การล้างแบบใช้น้ำยาล้างคอยล์แอร์
ในบางครั้งการล้างด้วยปั้มน้ำแรงดันสูงก็ไม่ตอบโจทย์เสมอไป เพราะจะมีสิ่งสกปรกที่กัดเซาะฝังแน่นอยู่ภายใน การล้างด้วยน้ำแรงดันก็ไม่สามารถทำให้สิ่งสกปรกเหล่านั้นหลุดออกไปได้หมด การใช้วิธีการล้างแบบใช้น้ำยาล้างคอยล์แอร์เข้ามาเป็นตัวช่วย จึงเป็นทางเลือกที่นิยมใช้กัน น้ำยาล้างคอยล์แอร์มีคุณสมบัติในการกัดเซาะสิ่งสกปรกที่ฝันแน่นติดอยู่ภายในส่วนต่างๆของแอร์ จากนั้นนั้นจะใช้น้ำแรงดันสูงทำความสะอาดอีกรอบ เพื่อคราบสิ่งสกปรกหลุดออกไปจนหมด ซึ่งภายหลังการล้างเสร็จสิ้นก็จะประกอบชิ้นส่วนต่างๆเข้าที่เดิม
4.การล้างแอร์แบบตัดล้าง
การล้างแอร์แบบตัดล้างหรือที่เรามักจะเรียกกันว่า การล้างใหญ่ วิธีการล้างแอร์แบบนี้ ส่วนใหญ่แล้วเหมาะสำหรับแอร์ที่มีอายุการใช้งานมานานอย่าง 3 ปีขึ้นไป แอร์มีอาการผิดปกติหลายๆอย่าง โดยวิธีนี้จะเป็นการตัดเครื่องแอร์ออกมาล้าง การแยกชิ้นส่วน ถอดออกมาเป็นชิ้นๆ แล้วนำมาแช่กับน้ำยาล้างคอยล์แอร์ ทิ้งไว้ชั่วคราว เพื่อให้น้ำยากัดเซาะสิ่งสกปรกที่ฝังแน่นอยู่ให้หลุดออกไป จากนั้นจึงใช้น้ำแรงดันสูงฉีดทำความสะอาดรังผึ้งแอร์ หลังจากเสร็จสิ้นก็จะประกอบกลับเข้าที่เดิม ซึ่งวิธีนี้จะมีการเช็กทำความสะอาดระบบทำความเย็น เติมน้ำยาแอร์ใหม่ให้ การแว๊คคั่มแอร์ เพื่อให้แอร์ของคุณกลับทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเหมือนเดิมอีกครั้ง
ล้างแอร์เอง ทำได้ไหม?
หลายคนสงสัยว่าเราสามารถล้างแอร์เองได้ไหม จริงๆแล้วเราสามารถล้างแอร์เองได้ เพราะมีชิ้นส่วนอุปกรณ์บางชิ้นที่สามารถล้างได้โดยไม่ยุ่งยากมากนัก ไม่มีความซับซ้อน สามารถถอดออกมาล้างได้ตามปกติ อย่างเช่น แผ่นกรองอากาศ ที่มักจะมีฝุ่นละอองสิ่งสกปรกเข้าไปเกาะอยู่ ทำให้อากาศไม่หมุนเวียนหรือถ่ายเทได้อย่างสะดวก เป็นสาเหตุให้แอร์มีอาการไม่เย็น วิธีการล้างก็ง่ายๆ เพียงเปิดฝาครอบแอร์ ดึงแผ่นกรองออกมา ล้างทำความสะอาด แล้วผึ่งให้แห้ง จากนั้นก็ฉีดน้ำทำความสะอาดล้างตัวคอยล์ร้อน ซึ่งวิธีการนี้ก็จะช่วยเบาค่าใช้จ่ายไปได้มาก
ควรเลือกวิธีการล้างแอร์ แบบไหนดีถึงจะเหมาะสม
การเลือกวิธีการล้างแอร์นั้นมีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึง เช่น สภาพของแอร์ อายุการใช้งาน ในแต่ละแบบของวิธีการล้างที่เหมาะสม และใช้เฉพาะด้านที่ต่างกัน ตัวอย่างเช่น แอร์ใหม่ที่พึ่งติดตั้งใช้งานไปได้ไม่นาน หากมีสิ่งสกปรกเกาะอยู่ การเลือกทำความสะอาดด้วยตนเองอย่างง่ายๆ ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดี หรือจะเรียกใช้บริการช่างมาล้างทำความสะอาดภายในเพิ่มขึ้นก็ได้ ซึ่งไม่เหมือนกับแอร์เก่าที่มีอายุการใช้งานมาก ที่ส่วนใหญ่แล้วเราแนะนำให้เลือกล้างแบบตัดล้าง เพราะจะช่วยทำความสะอาดได้ทั้งระบบ อีกทั้งยังตรวจสอบจุดอื่นๆให้พร้อมในบริการเดียวอีกด้วย วิธีการนี้จึงคุ้มค่าและเหมาะสมกว่านั้นเอง
การล้างแอร์มีหลากหลายวิธีที่เหมาะสมกับสภาพการใช้งานและงบประมาณ ตั้งแต่การล้างแอร์แบบธรรมดา สำหรับการใช้งานทั่วไป ไปจนถึงการล้างน้ำแรงและล้างด้วยน้ำยา หรือการล้างแบบเต็มระบบ เหมาะสำหรับแอร์ที่มีฝุ่นสะสมหนา เกาะติดฝังแน่น หรือใช้งานมายาวนาน เพื่อให้แอร์เย็นเร็ว ลดภาระการทำงานและประหยัดพลังงาน หากคุณต้องการการดูแลแบบมืออาชีพ Airyen ให้บริการครอบคลุมทุกเรื่องแอร์ ล้างแอร์ด่วน ซ่อมแอร์ ติดตั้งแอร์หรือย้ายแอร์นอกสถานที่ ทีมงานมืออาชีพ มีความเชี่ยวชาญ ได้รับการอบรมความรู้โดยตรง เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าจะได้บริการที่ดีที่สุด สะดวกและรวดเร็ว พร้อมรับประกันงานภายหลังการใช้บริการ สามารถติดต่อพูดคุยปรึกษาเราได้ที่ Airyenservice.com
ช่องทางการติดต่อเพิ่มเติม
บริษัท แอร์เย็น เซอร์วิส แอนด์ ซัพพลาย จํากัด
โทรศัพท์ : 065-558-2082 (เวลาทําการ 08.00 – 18.00 น.)
Facebook : Airyenservice
Line : @Airyen