เนื่องจากประเทศไทยของเรามีอากาศที่ร้อนอบอ้าว ดังนั้นหลายๆ บ้านจึงต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศหรือแอร์ เพื่อทำความเย็นภายในห้อง นอกจากจะให้ความเย็นสบายแล้ว ยังได้หมุนเวียนถ่ายเทอากาศที่สดชื่นอีกด้วย แต่เมื่อพูดถึงเครื่องปรับอากาศหรือแอร์ ทุกคนสงสัยไหมว่า แอร์มีกี่ประเภท ประเภทแอร์มีอะไรบ้าง แต่ละแบบต่างกันอย่างไร ควรเลือกแอร์แบบไหนให้เหมาะกับการใช้งาน ทั้งหมดนี้เราไปหาคำตอบพร้อมๆ กันเลย
แอร์มีกี่ประเภท
1.แอร์ติดผนัง
เครื่องปรับอากาศชนิดติดผนัง (Wall Type) เรามักพบเห็นกันบ่อย ในบ้านอาคารหรือสำนักงานต่างๆ โดยใช้ติดตั้งภายในห้อง มีตั้งแต่ขนาด 9,000 BTU ไปจนถึง 24,000 BTU ในปัจจุบันมีการดีไซน์รูปทรงที่หลากหลาย เพิ่มสีสันสวยงาม และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน แถมเสียงการทำงานยังไม่ดังรบกวนอีกด้วย
2.แอร์ตั้งแขวน
ประเภทเครื่องปรับอากาศแบบตั้งแขวน (Ceiling type) ราคาค่อนข้างสูงกว่าแอร์ติดผนัง เนื่องจากเครื่องปรับอากาศชนิดแขวนมีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าและขั้นตอนการติดตั้งซับซ้อนกว่า ข้อดีของแอร์แบบตั้งแขวน คือ มีลมแรงกว่าแอร์ติดผนังเหมาะกับห้องที่ไม่มีพื้นที่ผนัง หรือห้องที่ต้องการความเย็นกระจายอย่างทั่วถึง แอร์แบบตั้งแขวนทำให้ห้องเย็นไวขึ้นได้มากกว่า
3.แอร์ตู้ตั้งพื้น
แอร์ตู้ตั้งพื้น (Floor standing) แอร์ประเภทนี้มีลักษณะคล้ายกับตู้ มีกำลังลมแรงมาก เหมาะสำหรับพื้นที่ห้องที่มีขนาดใหญ่ กว้างขวาง หรือในบริเวณที่มีคนผ่านเข้าออกอยู่ตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่น ห้างสรรพสินค้า ห้องประชุม ห้องโชว์รูม ห้องอาหาร โรงพยาบาล เป็นต้น
4.แอร์ฝังฝ้าติดเพดาน 4 ทิศทาง
แอร์แบบฝังฝ้า แอร์ติดเพดาน หรือที่เราเรียกว่า แอร์ 4 ทิศทาง (Cassette type) แอร์ประเภทนี้เป็นเครื่องปรับอากาศชนิดฝังในเพดาน จะซ่อนหรือฝังอยู่ใต้เพดานห้อง ใต้ฝ้าของห้องเน้นความสวยงามสะอาดตา มีการควบคุมทุกอย่างด้วยจุดๆเดียว ทำให้แก้ไขหรือหาสาเหตุปัญหาได้อย่างง่ายดาย จุดเด่นอีกอย่างคือ ไม่มีส่วนใดของแอร์ที่โผล่ออกมาให้เห็น ยกเว้นหน้ากากแอร์สามารถติดตั้งหน้ากากแอร์ให้ลมออกได้หลายแบบ เช่น บนฝ้าเพดานบนพื้น ข้างกำแพง และมีหลายทิศทางให้เลือกซื้อทั้งแบบเหลี่ยม 2, 4 หรือ 8 ทิศทาง รวมถึงมีแบบทรงกลมอีกด้วย
5.แอร์แบบหน้าต่าง
แอร์แบบหน้าต่าง (Window type) แอร์ประเภทนี้จะรวม คอนเดนซิ่ง ยูนิต และแฟนคอยล์ ยูนิตอยู่ในเครื่องเดียวกัน แต่ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมนำมาใช้งานแล้ว เนื่องจากการติดตั้งต้องมีหน้าต่างขนาดพอดีกับเครื่องปรับอากาศ ซึ่งมีขั้นตอนที่ยุ่งยากและซับซ้อนในการติดตั้ง
6.แอร์เคลื่อนที่
แอร์แบบเคลื่อนที่ (Movable type) แอร์ประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องติดตั้งกับผนัง กำแพง หรือเพดาน สามารถเข็นใช้งาน ทำความเย็นในจุดที่ต้องการได้เลย สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายจากห้องหนึ่งไปยังห้องหนึ่ง แอร์มีท่อหรือชุดระบายอากาศสู่ภายนอก สามารถวางไว้ใกล้กับหน้าต่างหรือบานประตูเลื่อนได้ โดยแอร์แบบเคลื่อนที่จะมีราคาถูกกว่าแอร์ทั่วไป
7.แอร์แบบท่อลม
แอร์แบบท่อลม (Duct type) ประเภทแอร์โรงงานใช้ท่อลมส่งความเย็นไปยังห้องต่างๆ สามารถลำเลียงอากาศไปยังพื้นที่ต่างๆ ของอาคารได้ ตัวแอร์มีขนาดใหญ่กระจายลมแรงเหมาะกับพื้นที่ขนาดกว้างขวาง เช่น ห้างสรรพสินค้า ระบบท่อทำให้อุณหภูมิทุกจุดในอาคารมีความสม่ำเสมอ ควบคุมได้จากส่วนกลาง สามารถจัดการกับอุณหภูมิของทั้งอาคารได้จากจุดเดียว
วิธีเลือกแอร์ให้เหมาะต่อการใช้งาน ต้องดูที่อะไรบ้าง
- เลือกให้เหมาะกับขนาดพื้นที่ใช้งาน ต้องดูว่าสถานที่ที่ต้องการติดตั้งเครื่องปรับอากาศมีลักษณะอย่างไร เช่น ห้องนอน ควรจะเลือกแอร์ติดผนังหรือแอร์เคลื่อนที่ แต่หากเป็นห้องประชุม ก็ควรใช้เป็นแอร์ตั้งแขวนหรือแอร์แบบฝังฝ้าติดเพดานแทน
- พิจารณาจากลักษณะการใช้งาน ว่าต้องการอุณหภูมิภายในห้องที่ติดตั้งแอร์มากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้จะต้องคิดร่วมกับขนาดของพื้นที่ห้องด้วย เช่น การติดตั้งแอร์ติดผนัง ที่มีขนาด BTU แอร์ ไม่สูงเกิน กับห้องที่มีขนาดเล็ก แอร์ก็จะทำงานได้ดี ไม่ทำงานหนัก
- พิจารณาจากตำแหน่งหรือพื้นที่ในการติดตั้ง จุดที่ทำการติดตั้งแอร์ต้องมีความเหมาะสมกับประเภทแอร์ที่เลือก เช่น การใช้แอร์แบบฝังเพดาน สำหรับห้องที่เพดานสูง สำหรับโรงงาน การใช้แอร์แบบท่อลม ก็จะเหมาะสมกว่า
- พิจารณาจากงบประมาณ แอร์แต่ละประเภทมีราคา ค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน ทั้งในส่วนของอุปกรณ์บำรุงรักษา ค่าบริการติดตั้ง ผู้ใช้งานจึงต้องพิจารณา คิดให้รอบคอบอย่างถี่ถ้วนถึงลักษณะที่จะนำมาใช้งาน เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่และไม่เกินงบประมาณนั่นเอง
ระบบแอร์มีกี่ประเภท ให้เลือกใช้งาน
1.แอร์ระบบ Fix Speed
แอร์ระบบ Fix Speed หรือ Econo Air เป็นแอร์ระบบธรรมดา ที่เครื่องปรับอากาศจะทำความเย็นแบบเต็มกำลัง ตามอุณหภูมิที่เราตั้งค่าไว้และจะตัดการทำงานเมื่อความเย็นในห้องถึงค่าที่ถูกตั้งไว้ หากเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิของห้องได้ว่าสูงขึ้น แอร์จะกลับมาทำงานใหม่อีกครั้ง เพื่อไต่ระดับจนมาถึงความเย็นเท่ากับอุณหภูมิเดิมที่ถูกกำหนดไว้ เหมาะกับคนที่ชอบอุณหภูมิคงที่ ต้องการควบคุมอุณหภูมิภายในห้อง แอร์ระบบนี้จะทำความเย็นอย่างสม่ำเสมอ เย็นฉ่ำตลอดเวลา
2.แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter)
ประเภทแอร์ Inverter เครื่องปรับอากาศสามารถทำความเย็นอย่างสม่ำเสมอ ทำงานด้วยคอมเพรสเซอร์ที่ปรับระดับการทำงานให้สอดคล้องกับอุณหภูมิ เมื่อแอร์ทำความเย็นถึงอุณหภูมิที่ตั้ง คอมเพรสเซอร์จะไม่ตัดการทำงานแต่จะลดระดับการทำงานลง และยังคงรักษาความเย็นได้อย่างแม่นยำ แอร์ระบบ Inverter ไม่ต้องเริ่มทำความเย็นใหม่ทั้งหมดจึงช่วยประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี แอร์ไม่ทำงานหนัก ไม่เปลืองไฟ
แอร์หรือเครื่องปรับอากาศ คือ สิ่งจำเป็นโดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีอากาศร้อนอบอ้าว แอร์ช่วยให้ห้องเย็นและมีอากาศที่สดชื่นมากขึ้น ดังนั้น การรู้ถึงประเภทของเครื่องปรับอากาศ ว่ามีแบบใดให้เลือกใช้งาน แอร์ประเภทไหนเหมาะกับพื้นที่แบบใด ก็จะสามารถเลือกใช้งานได้ถูก เหมาะสมและตอบโจทย์การใช้งาน ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณ อีกทั้งแอร์ก็ไม่ต้องทำงานหนัก ประหยัดพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นแอร์ติดผนัง แอร์ตั้งแขวน แอร์ตู้ตั้งพื้น แอร์ฝังฝ้าหรือแอร์ฝังเพดาน แอร์แบบหน้าต่าง แอร์เคลื่อนที่รวมไปถึงแอร์แบบท่อลม สำหรับท่านใดที่กำลังวางแผนจะซื้อแอร์หรือเครื่องปรับอากาศ และยังไม่มีทีมช่างแอร์ในการติดตั้ง ให้เราแอร์เย็นเซอร์วิส (Airyen) จัดการให้ บริการติดตั้งแอร์ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ประเภทแอร์ทุกรูปแบบ ทีมงานของเรามีความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์กว่า 30 ปี ได้รับการอบรมเสริมความรู้อยู่ตลอด พร้อมเครื่องมือครบครัน บริการรวดเร็ว สะดวก การันตีผลงาน รับประกันหลังจบงาน 30 วัน สามารถติดต่อสอบถามเราได้ที่ Airyenservice.com
ช่องทางติดต่อเราเพิ่มเติม
บริษัท แอร์เย็น เซอร์วิส แอนด์ ซัพพลาย จํากัด
โทรศัพท์ : 065-558-2082 (เวลาทําการ 08.00 – 18.00 น.)
Facebook : Airyenservice
Line : @Airyen
