การล้างแอร์เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะช่วยรักษาประสิทธิภาพการทำความเย็นและลดการสะสมของฝุ่นและเชื้อโรค ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพและทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น การล้างแอร์เป็นประจำจึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่คำถามคือ ควรล้างแอร์บ่อยแค่ไหน ? เวลาไหนที่เหมาะสมในการล้างแอร์ ล้างแอร์ทุก 6 เดือน ดีจริงไหม เราจะพามาดูกัน
ควรล้างแอร์บ่อยแค่ไหน
โดยปกติทั่วไปแล้ว แนะนำให้ล้างแอร์อย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน แต่หากมีการใช้งานแอร์บ่อยหรือแอร์ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นหรือแสงแดดมาก เช่น ร้านอาหารหรือออฟฟิศ อาจจะต้องล้างแอร์บ่อยขึ้น มาเป็นทุกๆ 3-4 เดือน เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นและแบคทีเรีย หากแอร์เริ่มไม่เย็น มีกลิ่นอับ หรือมีฝุ่นมากที่แผ่นกรอง ก็ควรรีบล้างทันที
ข้อดีของการล้างแอร์
- รักษาประสิทธิภาพ : การล้างแอร์ช่วยให้แอร์ทำงานได้เต็มที่ สามารถทำความเย็นได้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องทำงานหนักเกินไป
- ลดค่าใช้จ่าย : แอร์ที่สะอาดจะไม่ใช้พลังงานมากจนเกินไป ช่วยให้ประหยัดค่าไฟได้ลงไปอีก
- ยืดอายุการใช้งาน : การดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศ การล้างแอร์สม่ำเสมอช่วยไม่ให้เครื่องทำงานหนัก ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายของอะไหล่และยืดอายุในการงานของแอร์ได้อีกด้วย
- ดูแลสุขภาพ : การล้างแอร์ช่วยขจัดฝุ่น เชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกที่อาจจะสะสมภายในตัวเครื่องปรับอากาศ ไม่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพ โรคภูมิแพ้ เป็นต้น
สาเหตุปัจจัยที่ทำให้ต้องล้างแอร์บ่อย
1. สภาพแวดล้อม
หากตำแหน่งที่อยู่อาศัยของคุณอยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่นมาก อยู่ติดถนนหรือเขตการก่อสร้าง ก็จะทำให้แอร์หรือเครื่องปรับอากาศนั้นสะสมฝุ่นได้เร็วมากขึ้น จึงต้องมีการล้างแอร์บ่อยขึ้น โดยสามารถสังเกตการก่อตัวของฝุ่นได้ที่คอมเพรสเซอร์แอร์ ซึ่งในกรณีนี้เราแนะนำให้ทำการล้างแอร์ทุกๆ 3-4 เดือน
2. ความถี่ในการใช้งาน
ถ้าหากคุณเป็นคนที่มีการใช้แอร์ตลอดเวลา เปิดเป็นประจำวันทุกวัน แอร์จะมีฝุ่นสะสมมากขึ้น จากการหมุนเวียนใบพัดของตัวเครื่อง ส่งผลให้ฝุ่นหรือสิ่งสกปรกเข้าไปเกาะภายใน เราจึงควรต้องล้างบ่อยขึ้นเพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงานของแอร์ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้มีปัญหาในการใช้งานในระยะยาว อีกทั้งยังช่วยรักษาสุขภาพ
ผลเสียที่อาจเกิดขึ้น หากไม่ล้างแอร์บำรุงแอร์
หากไม่ล้างแอร์และบำรุงรักษาแอร์เป็นประจำ อาจทำให้แอร์ทำงานหนัก ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำความเย็นและเพิ่มค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น นอกจากนี้ยังมีผลกระทบ ดังนี้
1.ประสิทธิภาพการทำความเย็น
หากมีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกสะสมอยู่ภายในเครื่องเป็นจำนวนมาก อาจทำให้แอร์ไม่เย็น ไม่สามารถทำความเย็นได้ เย็นช้าหรือไม่เย็นเท่าที่ควร หากไม่มีการล้างแอร์เป็นประจำ สิ่งเหล่านี้จะไปตกค้างเกาะที่แอร์ ซึ่งจะขัดขวางการหมุนเวียนของอากาศของแอร์ ก่อให้เกิดอาการแอร์ไม่เย็นได้
2.ค่าไฟสูงขึ้น
แอร์ที่ทำงานหนักขึ้น ทำให้ใช้พลังงานมากกว่าปกติ จึงเป็นคำตอบของคำถามที่ว่า ควรล้างแอร์บ่อยแค่ไหน ถ้าไม่ล้างเปลืองไฟจริงไหม? เพราะการที่เราไม่ล้างแอร์เป็นประจำ ทำให้ระบบทำความเย็นนั้นทำงานมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้ได้ระดับความเย็นตามปกติ ซึ่งก็แน่นอนว่าถ้าเครื่องมีการทำงานที่หนักขึ้น อัตราการใช้พลังงาน การกินไฟก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
3.เสียสุขภาพ
แอร์ที่เปิดใช้งานมานานหรือมีการใช้งานเป็นประจำนั้น ก็เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและฝุ่นละลองสิ่งสกปรกเช่นกัน ถ้าไม่มีการล้างแอร์เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เชื้อโรคเหล่านี้ก็จะเข้าไปสะสมในร่างกายผ่านอากาศที่เราสูดเข้าไปจากเครื่องปรับอากาศ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ โรคภูมิแพ้ หอบหืด ปอดทำงานได้ไม่ดี เป็นต้น
4.อายุการใช้งานของแอร์น้อยลง
การไม่บำรุงรักษาหรือล้างแอร์ตามเวลาเหมาะสม อาจทำให้แอร์เสียเร็วและต้องซ่อมบ่อยขึ้น ซึ่งสาเหตุก็มาจากฝุ่นละอองสิ่งปรกที่เกาะอยู่ภายใน ทำให้อากาศไม่สามารถไหลเวียนได้อย่างสะดวก จนทำให้แอร์ต้องทำงานหนักมากขึ้น ส่งผลให้มีอายุการใช้ที่น้อยลงกว่าปกติหรืออาจจะต้องซ่อมแอร์เร็วกว่าเท่าที่ควร
ล้างแอร์กับแอร์เย็น (Airyen) ราคาเดียวจบ งบไม่บานปลาย
มีปัญหาแอร์ไม่สะอาดหรือแอร์ไม่เย็น เลือกใช้บริการล้างแอร์จากแอร์เย็น (Airyen Service) ทีมงานมีความชำนาญและมีคุณภาพ ให้บริการล้างแอร์ในราคาคุ้มค่าได้มาตรฐาน ล้างสะอาดหมดจดทุกซอกทุกมุม หมดกังวลเรื่องแอร์ไม่เย็นหรือมีกลิ่นอับ เราให้บริการล้างแอร์ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ พร้อมเติมน้ำยาแอร์ให้ตามเหมาะสม รับประกันงานคุณภาพด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี ดูแลเอาใจใส่ทุกขั้นตอนจนถึงหลังการล้าง หากมีปัญหาเรื่องแอร์ ต้องการล้างแอร์ แอรไม่เย็น แอร์มีกลิ่นเหม็น ติดต่อเราได้ตลอดที่ airyenservice.com
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการล้างแอร์ (FAQ)
การล้างแอร์ ควรล้างทุกๆ 6 เดือน หรือปีละ 1 ครั้งน้อยเป็นอย่างน้อย ซึ่งหากมีการล้างบำรุงแอร์อยู่เป็นประจำ ก็จะช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานนั้นเพิ่มมากขึ้นและยืดอายุการใช้งาน
การล้างแอร์มี 2 แบบ คือ การล้างแอร์แบบปกติทั่วไปและการล้างแอร์ใหญ่
การล้างแอร์จริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องเติมน้ำยาทุกครั้ง ถ้าหากไม่มีอาการรั่วของน้ำยา เพราะน้ำยาแอร์นั้นอยู่ได้นานไม่ระเหยได้ง่ายๆ
การล้างแอร์ตามเวลาที่เหมาะสม หรือล้างบ่อยๆตามการใช้งาน ช่วยให้ประหยัดได้มากขึ้น เพราะแอร์ไม่ต้องทำงานหนักเกินไป ไม่ต้องใช้พลังงานมาก
จริงๆแล้ว แอร์ใหม่ไม่จำเป็นต้องรีบล้าง สามารถล้างได้ตามปกติตามเวลาเหมาะสมที่เราได้แนะนำไป ปีละ 1-2 ครั้ง
สำหรับใครที่เป็นโรคภูมิแพ้ หรือเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ สามารถอยู่ห้องแอร์/ห้องปรับอากาศได้ เพียงแต่ควรมั่นเอาใจใส่บำรุงรักษาแอร์อยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกเข้าไปเกาะอยู่ภายในตัวแอร์มากเกิน ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้ใช้งานได้